สำนักงานตำรวจแห่งชาติตีแผ่ 4 พฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบตั้งฐานปฏิบัติการ หากพบขอให้รีบแจ้ง
.
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมักใช้กลอุบายหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานต่าง ๆ
.
ที่ผ่านมาพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์บางกลุ่มได้แฝงตัวตั้ง “ฐานปฏิบัติการ” ภายในที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร หรือบ้านเช่า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ และใช้โทรศัพท์หรือสื่อสังคมออนไลน์ในการหลอกเหยื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกวาดล้างจับกุมทุกราย ไม่ให้สามารถมาตั้งฐานในไทยได้อย่างเด็ดขาด
.
.
1. มีกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ร่วมกันโดยไม่ปรากฏอาชีพชัดเจน มักมาเป็นกลุ่ม 3–6 คน เช่าที่พักระยะสั้น และไม่สุงสิงกับคนในชุมชน และมีพฤติกรรมเข้า – ออกไม่เป็นเวลา ซึ่งอาจเป็นการรวมกลุ่มทำงานภายในห้องเพื่อปฏิบัติการหลอกลวงทางโทรศัพท์
2. มีเสียงพูดโทรศัพท์ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา มักได้ยินเสียงสนทนาภาษาต่างประเทศดังออกมาจากห้องเกือบตลอดทั้งวัน โดยมีลักษณะเหมือนการอ่านสคริปต์ซ้ำ ๆ ในการโทรหลอกเหยื่อ
3. ปิดม่านตลอดเวลา ไม่เปิดไฟในตอนกลางวัน แต่เปิดไฟตลอดทั้งคืน เพราะมักทำงานในช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศต้นทางของเหยื่อ และปิดม่านเพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเห็นการทำงานภายในห้อง
4. มีอุปกรณ์สายไฟหรือเครื่องมือสื่อสารจำนวนมาก บางห้องมีปลั๊กพ่วงหรือสายไฟพาดหลายเส้น มีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเราเตอร์หลายเครื่อง และมักมีคนมาซ่อมหรือขนของเข้าออกบ่อยครั้ง
.